Browse By

เมมฟิส เดอปาย กลายเป็นเจ้าของสถิติแอสซิสต์มากที่สุด

เมมฟิส เดอปาย ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้สร้างชื่อเข้าสู่หน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลดัตช์อีกครั้ง หลังจากกลายเป็นเจ้าของสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติฮอลแลนด์อย่างเป็นทางการ โดยแซงหน้าตำนานรุ่นพี่อย่างเวสลีย์ สไนเดอร์ และอาร์เยน ร็อบเบน จากการทำแอสซิสต์ลูกสำคัญในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ “อัศวินสีส้ม” เปิดบ้านถล่มฟินแลนด์ไปด้วยสกอร์ 4-0 ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถิติส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเติบโตของเดอปายในฐานะผู้นำทีมชาติ ที่ก้าวผ่านช่วงเวลาทั้งรุ่งเรืองและยากลำบาก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่แห่งฟุตบอลเนเธอร์แลนด์อย่างแท้จริง ซึ่ง สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ได้วิเคราะห์อย่างละเอียดถึงความหมายของสถิตินี้ว่ามันคือ “บทพิสูจน์ของความต่อเนื่องและความเสียสละ” ของนักเตะที่ถูกมองว่าเป็นทั้งเพลย์เมกเกอร์และดาวยิงในคนเดียวกัน เกมที่เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ดังกล่าวเกิดขึ้นในค่ำคืนที่อัมสเตอร์ดัม อารีนา เมื่อเนเธอร์แลนด์ลงสนามพบกับฟินแลนด์ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 เดอปายได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวหลอกตามแท็กติกของโรนัลด์ คูมัน โดยมีโคดี้ กักโป และชาบี ซิมอนส์ ยืนสนับสนุนอยู่ด้านหลัง นาทีที่ 25 ของเกม เดอปายแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระดับสูง เมื่อรับบอลจากเฟรงกี้ เดอ ยอง แล้วจ่ายทะลุช่องให้กักโปหลุดเข้าไปยิงเสียบเสาเป็นประตูขึ้นนำ 1-0

หลุยส์ ซัวเรซ โพสต์ปลื้มซัดครบ600ประตู

หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าระดับตำนานทีมชาติอุรุกวัย สร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ให้กับเส้นทางอาชีพอันยอดเยี่ยมของเขา หลังทำประตูครบ 600 ลูกในเกมการแข่งขันระดับสโมสรและทีมชาติ พร้อมโพสต์ข้อความแสดงความปลื้มใจและซาบซึ้งต่อครอบครัว แฟนบอล และทุกสโมสรที่เคยร่วมงานด้วยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเจ้าตัวกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่านี่คือ “ช่วงเวลาที่จะไม่มีวันลืม” สำหรับเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ความท้าทาย และน้ำตาแห่งชัยชนะ ขณะเดียวกันสื่อกีฬาทั่วโลก รวมถึงคาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน ก็ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงความยิ่งใหญ่ของซัวเรซในฐานะหนึ่งในสุดยอดกองหน้าของยุค ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อวงการลูกหนังโลกไม่ว่าจะอยู่ในสนามหรือแม้แต่ในวัยใกล้ปลายอาชีพก็ตาม ประตูที่ทำให้หลุยส์ ซัวเรซแตะหลัก 600 ลูกเกิดขึ้นในเกมลีกบราซิลกับต้นสังกัดปัจจุบัน เกรมิโอ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งแดนแซมบ้า โดยในนาทีที่ 67 ของเกม เจ้าตัวรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก่อนใช้ความเฉียบคมยิงเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสุดสวย เสียงเชียร์ดังลั่นสนามก่อนที่เพื่อนร่วมทีมทั้งหมดจะวิ่งเข้ามากอดเขาเพื่อร่วมแสดงความยินดี มันไม่ใช่เพียงแค่ประตูหนึ่งในเกม แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางอันยิ่งใหญ่กว่า 20 ปีในเส้นทางลูกหนังของนักเตะผู้ไม่เคยยอมแพ้ หลังจบเกม ซัวเรซโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมพร้อมภาพที่เขาชูนิ้วขึ้นฟ้าพร้อมรอยยิ้มว่า “600 ประตู! มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมอยากขอบคุณทุกสโมสรที่เคยร่วมงาน ครอบครัวที่อยู่ข้างผมเสมอ และแฟนบอลทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอด

เปเป้เชื่อ อลอนโซ่ ประสบความสำเร็จกับมาดริด

เปเป้ ปราการหลังจอมเก๋าชาวโปรตุเกส ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ชาบี อลอนโซ่ อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาที่เรอัล มาดริด จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอนหากก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของ “ราชันชุดขาว” ในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากกระแสข่าวเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ ว่าสโมสรเตรียมวางตัวเทรนเนอร์ชาวสเปนรายนี้ให้เข้ามาสืบทอดตำแหน่งต่อจากคาร์โล อันเชล็อตติ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล โดยอดีตแนวรับพันธุ์ดุผู้เคยร่วมงานกับอลอนโซ่ในยุคทองของมาดริด กล่าวยกย่องถึงความฉลาดทางแท็กติก ความเป็นผู้นำ และบุคลิกอันสงบนิ่งของอดีตกองกลางรายนี้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาเชื่อว่า อลอนโซ่จะสามารถนำทีมประสบความสำเร็จได้ในระดับสูงสุด ซึ่งบทวิเคราะห์จากสมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ยังระบุชัดว่า ความเห็นของเปเป้ไม่ได้เป็นเพียงการยกย่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงเสียงเชื่อมั่นจากอดีตแข้งรุ่นใหญ่หลายคนที่เคยร่วมทีมราชันชุดขาวมาแล้วด้วย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ชื่อของชาบี อลอนโซ่ กลายเป็นหนึ่งในกุนซือที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรป หลังจากสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมที่เขาพาขึ้นมาท้าทายอำนาจบาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีกาได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยสไตล์การเล่นที่ทันสมัย เน้นการครองบอล การเพรสซิ่งที่ดุดัน และการเปลี่ยนจังหวะเกมอย่างมีประสิทธิภาพ อลอนโซ่พาเลเวอร์คูเซ่นทำผลงานไร้พ่ายยาวนานตลอดฤดูกาลจนได้รับการยกย่องว่าเป็น “มันสมองใหม่แห่งยุโรป” ผลงานดังกล่าวไม่เพียงสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเรอัล มาดริด

บาเยิร์น มิวนิค เตรียมยกเลิกสัญญายืมตัวเพื่อดึง ดาเนียล เปเร็ตซ์ กลับมา

บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี กำลังตกเป็นข่าวว่ากำลังพิจารณาอย่างจริงจังในการยกเลิกสัญญายืมตัวของ ดาเนียล เปเร็ตซ์ นายทวารดาวรุ่งทีมชาติอิสราเอล ที่ปัจจุบันถูกปล่อยให้โคโลญจน์ใช้งานชั่วคราว เพื่อดึงกลับมาร่วมทีมก่อนกำหนด หลังจากสถานการณ์ในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมชุดใหญ่เริ่มมีปัญหา และโธมัส ทูเคิล ต้องการตัวเลือกสำรองที่ไว้วางใจได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ข่าวดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยสื่อชั้นนำในเยอรมนีอย่าง Bild และ Kicker พร้อมทั้งได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าววงในว่า “เสือใต้” ได้เริ่มต้นการเจรจากับโคโลญจน์แล้วเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้ทั้งสองฝ่าย โดย สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ได้รายงานเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เชิงลึกว่า ดีลนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อโครงสร้างทีมของบาเยิร์น และสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการบริหารทีมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนในยุคใหม่ของสโมสร ดาเนียล เปเร็ตซ์ วัย 23 ปี ถูกบาเยิร์นคว้าตัวมาจากมัคคาบี เทลอาวีฟ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวประมาณ 6 ล้านยูโร หลังจากโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในลีกอิสราเอล และในศึกยูโร U21 ที่เขาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีเปอร์เซ็นต์เซฟสูงที่สุดของทัวร์นาเมนต์ เดิมทีบาเยิร์นมีแผนจะให้เขาอยู่ในทีมชุดใหญ่เพื่อเรียนรู้จากมานูเอล

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดนมาร์ก 3 – กรีซ 1

ค่ำคืนที่สนามพาร์เก้น สเตเดียม กรุงโคเปนเฮเกน กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของทีมชาติ เดนมาร์ก เมื่อพวกเขาเปิดบ้านโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง ไล่เอาชนะทีมชาติกรีซไปได้ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม C ผลการแข่งขันดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้เดนมาร์กเก็บสามแต้มสำคัญเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงพัฒนาการและความมั่นใจของทีมภายใต้การคุมทัพของกุนซือแคสเปอร์ ยูลมันด์ ที่กำลังพา “โคนม” เดินหน้าสู่เป้าหมายในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ชาติ เกมนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ และสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและจิตวิญญาณของทีมที่พร้อมลุยทุกอุปสรรค ซึ่งสื่อวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน ได้กล่าวว่า เดนมาร์กในยุคนี้แสดงให้เห็นถึง “สมดุลระหว่างเทคนิคและแท็กติก” อย่างสมบูรณ์แบบ และคือหนึ่งในทีมที่น่าจับตามองมากที่สุดของยุโรปในรอบคัดเลือกครั้งนี้ เกมเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคักจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เข้ามาเชียร์แน่นสนามกว่า 40,000 คน เสียงเพลง “Der er et yndigt land” ดังก้องทั่วอัฒจันทร์ก่อนเสียงนกหวีดเริ่มต้นการแข่งขัน เดนมาร์กในเกมนี้จัดผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบ

บาร์ซ่าพิจารณาเซ็นถาวร แรชฟอร์ด

วงการฟุตบอลยุโรปตอนนี้คือการที่ “บาร์เซโลน่า” สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเซ็นสัญญาถาวรกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ทีมงานด้านเทคนิคของบาร์ซ่าได้ติดตามฟอร์มการเล่นของนักเตะรายนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นฤดูกาล ทั้งนี้รายงานจากหลายสื่อในสเปนระบุว่าบาร์เซโลน่ากำลังมองหาผู้เล่นแนวรุกที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสและมีความยืดหยุ่นในการเล่นหลายตำแหน่ง ซึ่งแรชฟอร์ดถือว่าตอบโจทย์ทุกอย่างทั้งในเชิงแท็กติกและศักยภาพทางการตลาด โดยมีการวิเคราะห์จาก สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ว่าดีลนี้อาจเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนโฉมแนวรุกของทีมคาตาลันได้อย่างสิ้นเชิงหากเกิดขึ้นจริง มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา หลังจากผลงานของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลล่าสุดตกลงไปจากมาตรฐานเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยจากที่เคยทำไปกว่า 30 ประตูในฤดูกาล 2022-23 กลับลดลงเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวในฤดูกาลถัดมา ซึ่งทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายสโมสรเริ่มขยับเข้ามาสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการดึงตัวดาวยิงวัย 27 ปีรายนี้ไปร่วมทีม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบาร์เซโลน่า ที่มีความสนใจจริงจังและกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ทั้งในแง่ของค่าใช้จ่ายและแผนการระยะยาวของสโมสร จากข้อมูลของสื่อสเปนอย่าง Mundo Deportivo ระบุว่า ทีมงานของบาร์เซโลน่าได้ประเมินแรชฟอร์ดมาหลายเดือน โดยเชื่อว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะกับระบบการเล่นของทีมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเล่นได้ทั้งในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางและริมเส้นฝั่งซ้าย รวมถึงมีความเร็วในการเปลี่ยนจังหวะเกม ซึ่งเป็นสิ่งที่โค้ชชาบี เอร์นานเดซต้องการเสริมเข้าไปในระบบการเล่นของทีมที่เน้นความยืดหยุ่นและการโจมตีที่หลากหลาย บาร์ซ่าเคยพยายามคว้าตัวแรชฟอร์ดมาก่อนตั้งแต่ปี

เทคนิค Fosbury Flop ทำไมถึงเป็นมาตรฐานสากล

เทคนิค Fosbury Flop ทำไมถึงเป็นมาตรฐานสากล บทนำ: การปฏิวัติของวงการกรีฑา หากพูดถึงกีฬากระโดดสูง (High Jump) ภาพที่หลายคนนึกออกทันทีคือ “นักกีฬาวิ่งโค้งเข้าหาคาน แล้วหงายหลังข้ามไปก่อนตกลงบนเบาะอย่างนุ่มนวล” ซึ่งนี่คือท่า Fosbury Flop เทคนิคที่กลายเป็นมาตรฐานสากลในกีฬากระโดดสูงจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ นักกีฬาทั่วโลกใช้ท่า Scissors หรือ Straddle แต่ทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปเมื่อ Dick Fosbury นักกรีฑาชาวอเมริกัน นำท่าหงายหลังนี้เข้าสู่โอลิมปิกปี 1968 ที่เม็กซิโกซิตี้ และคว้าเหรียญทองด้วยสถิติ 2.24 เมตร สร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชมและนักกีฬาทั่วโลก คำถามคือ ทำไม Fosbury Flop ถึงขึ้นแท่นเป็นมาตรฐานสากล? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน จุดกำเนิดของ Fosbury Flop Dick Fosbury: ผู้ปฏิวัติการกระโดดสูง Dick

การเลือกท่ากระโดดสูง ที่เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละคน

การเลือกท่ากระโดดสูง ที่เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละคน บทนำ: ทำไม “ท่ากระโดดสูง” ถึงสำคัญ? กีฬากระโดดสูง (High Jump) อาจดูเหมือนเป็นเพียงการกระโดดข้ามคานให้สูงที่สุด แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยศาสตร์แห่งการเลือก “ท่ากระโดด” ที่เหมาะสมกับสรีระ สมรรถภาพ และสไตล์การเล่นของนักกีฬา การเลือกท่าที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยให้นักกีฬาทำสถิติได้ดีขึ้น แต่ยังลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ และทำให้สามารถพัฒนาตัวเองได้ในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกการเลือกท่ากระโดดสูงที่เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละคน ตั้งแต่ท่า Scissors, Straddle, Western Roll ไปจนถึงท่า Fosbury Flop ที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน พร้อมคำแนะนำว่าท่าใดเหมาะกับนักกีฬาลักษณะไหน ภาพรวมของท่ากระโดดสูงที่ใช้กันทั่วโลก ก่อนจะเลือก เราต้องเข้าใจก่อนว่ามีท่าหลัก ๆ ที่นักกีฬานิยมใช้ ปัจจัยในการเลือกท่ากระโดดสูง 1. สรีระร่างกาย 2. ความเร็วในการวิ่งเข้าหาคาน 3. ระดับประสบการณ์ ตัวอย่างการเลือกท่าตามลักษณะนักกีฬา นักกีฬามือใหม่ (Beginner) นักกีฬาที่เน้นความแข็งแรง

กระโดดสูงในประเทศไทย จากกีฬานักเรียนสู่เวทีนานาชาติ

กระโดดสูงในประเทศไทย จากกีฬานักเรียนสู่เวทีนานาชาติ บทนำ: เมื่อคานไม่ใช่แค่เส้นกั้น แต่คือแรงบันดาลใจ กีฬากระโดดสูง (High Jump) ในประเทศไทยอาจไม่เป็นที่พูดถึงมากเท่ากับฟุตบอล วอลเลย์บอล หรือแบดมินตัน แต่แท้จริงแล้ว กระโดดสูงคือกีฬาที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนานักกีฬารุ่นเยาว์มาโดยตลอด จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในสนามกีฬาของโรงเรียน กลายเป็นก้าวแรกที่ผลักดันนักกีฬาหลายคนไปสู่การแข่งขันระดับชาติ และต่อยอดสู่เวทีนานาชาติ เส้นทางของกีฬากระโดดสูงในไทยจึงเป็นเรื่องราวของ “การก้าวข้ามคาน” ที่ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคทางร่างกาย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามและความฝันของเยาวชนไทย จุดเริ่มต้น: กระโดดสูงในกิจกรรมพละและการแข่งขันนักเรียน สนามเด็กเล่นสู่สนามกีฬา กีฬากระโดดสูงเข้าสู่โรงเรียนไทยตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อการเรียนการสอนพละศึกษาได้รับการปรับปรุงตามแบบสากล การกระโดดสูงถูกบรรจุในหลักสูตรพละ เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก อุปกรณ์ง่าย และช่วยพัฒนาทักษะด้านการเคลื่อนไหว ความคล่องตัว และความมั่นใจของนักเรียน งานกีฬานักเรียนประจำปี ไม่ว่าสมัยก่อนหรือปัจจุบัน กีฬากระโดดสูงมักถูกจัดเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาสำคัญของงานกีฬานักเรียน นักเรียนจากระดับประถมถึงมัธยมต่างเฝ้ารอการลงแข่ง เพราะนอกจากจะได้แสดงความสามารถแล้ว ยังเป็นเวทีที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้ที่อยากก้าวสู่การเป็นนักกีฬากรีฑามืออาชีพ การแข่งขันระดับจังหวัดและเขตการศึกษา หลังจากนักเรียนเริ่มต้นจากสนามโรงเรียน การแข่งขันจะถูกยกระดับสู่สนามจังหวัดและเขตการศึกษา ที่นี่เองที่เราจะเริ่มเห็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์โดดเด่น การแข่งขันเหล่านี้คือด่านแรกที่ช่วยคัดกรองผู้เล่นที่มีศักยภาพ

นักกีฬากระโดดสูงในตำนานระดับโลก

นักกีฬากระโดดสูงในตำนานระดับโลก บทนำ: ความฝันที่ถูกยกสูงกว่าคาน กีฬากระโดดสูง (High Jump) ไม่ใช่เพียงการแข่งขันเพื่อดูว่าใครจะกระโดดข้ามคานได้สูงที่สุด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการท้าทายขีดจำกัดทางร่างกายและจิตใจ นักกีฬากระโดดสูงทุกยุคสมัยต่างพกพาความฝันและความพยายามมาพร้อมกับแรงบันดาลใจในการพิชิตความสูงที่มากขึ้นทุกครั้งที่ก้าวสู่ลานกระโดด นักกีฬาระดับตำนานได้ฝากรอยประวัติศาสตร์ไว้ในโอลิมปิกและสนามกีฬาทั่วโลก ทั้งด้วยสถิติที่ยากจะลบล้าง เทคนิคที่ปฏิวัติวงการ หรือแม้แต่บุคลิกภาพที่สร้างแรงบันดาลใจ บทความนี้จะพาไปสำรวจนักกีฬากระโดดสูงในตำนานระดับโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จุดกำเนิดของนักกีฬากระโดดสูงระดับโลก ยุคแรก: ความเรียบง่ายของ Scissors และ Straddle ในปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 นักกีฬากระโดดสูงส่วนใหญ่ใช้เทคนิค Scissors และ Straddle ซึ่งแม้จะเรียบง่าย แต่ก็มีนักกีฬาที่สร้างชื่อ เช่น ตำนานโซเวียต: ความยิ่งใหญ่ในยุคสงครามเย็น Valeriy Brumel: ฮีโร่แห่ง Straddle ในทศวรรษ 1960 ชื่อของ Valeriy Brumel กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง เขาคือผู้ทำลายสถิติโลกถึง 6